ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เงินบริจาค ที่ผู้บริจาคจากฝั่งเมียนมา และฝั่งไทย ที่ได้มาบริจาคช่วยเหลือ ผู้ประสบเหตุไฟไหม้ บ้านหมากก่าหัวคำนั้น ทางคณะกรรมการบริหารอำเภอ/จังหวัด เป็นผู้กำกับดูแล และเมื่อเย็น(16:00)น. ในวันที่(15.4.2016) ได้เข้าให้เงินถึงมือ ชาวบ้านทั้ง(29)ครัวเรือนแล้ว

ได้แบ่งเงินที่ประชาชนมาบริจาค ให้ชาวบ้านที่ประสบเหตุไฟไหม้ ครัวเรือนละ (41,500)บาท และ (838,500)จ๊าด รวมเป็น(2.2)ล้านจ๊าด

ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก อูติ่นวินฉ่วย กล่าวว่า "เมื่อก่อนจำเป็นต้องเปิดศูนย์รับบริจาค แต่ตอนนี้เพื่อผู้บริจาค หากสามารถ บริจาคได้โดยตรง จึงได้ปิดศูนย์รับบริจาคแล้ว"

เงินที่ผู้บริจาค มาบริจาคช่วยเหลือให้กับ ผู้ประสบเหตุไฟไหม้ ที่ศูนย์รับบริจาค วัดหมากก่าหัวคำ ท่าขี้เหล็กนั้น ได้แบ่งให้ชาวบ้าน ในแต่ละครัวเรือนแล้ว แต่ผู้บริจาคบางสวน ที่ไม่มาบริจาคที่วัด แต่ไปบริจาคให้ถึงมือชาวบ้านก็มี

ได้แบ่งเงินที่ผู้บริจาค มาบริจาคช่วยเหลือแล้ว แต่ที่ยังไม่ได้แบ่งให้กับชาวบ้าน มีรายการดังต่อไปนี้
เหล็กลูก เหล็กเส้น สังกะสี ปูน และอิฐ วัสดุก่อสร้างเหล่านี้ จะแบ่งให้กับชางบ้าน ในตอนที่ไกล้สร้างบ้านใหม่ต่อไป

เหตุการณ์ไฟไหม้นานกว่า(2)ชั่วโมง เมื่อเวลาประมาณ(19:00)น.วันที่(9.4.2016) ทำให้บ้านไม้ไผ่(9)หลัง บ้านไม้(15)หลัง และบ้านอิฐ(5)หลัง รวม(29)หลัง และผู้ประสบเหตุชาย(76)คน หญิง(89)คน รวมทั้งหมด(165)คน ที่ไม่มีบ้านเรือนอยู่อาศัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เงินบริจาค ที่ผู้บริจาคจากฝั่งเมียนมา และฝั่งไทย ที่ได้มาบริจาคช่วยเหลือ ผู้ประสบเหตุไฟไหม้ บ้านหมากก่าหัวคำนั้น ทางคณะกรรมการบริหารอำเภอ/จังหวัด เป็นผู้กำกับดูแล และเมื่อเย็น(16:00)น. ในวันที่(15.4.2016) ได้เข้าให้เงินถึงมือ ชาวบ้านทั้ง(29)ครัวเรือนแล้ว

ได้แบ่งเงินที่ประชาชนมาบริจาค ให้ชาวบ้านที่ประสบเหตุไฟไหม้ ครัวเรือนละ (41,500)บาท และ (838,500)จ๊าด รวมเป็น(2.2)ล้านจ๊าด

ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก อูติ่นวินฉ่วย กล่าวว่า "เมื่อก่อนจำเป็นต้องเปิดศูนย์รับบริจาค แต่ตอนนี้เพื่อผู้บริจาค หากสามารถ บริจาคได้โดยตรง จึงได้ปิดศูนย์รับบริจาคแล้ว"

เงินที่ผู้บริจาค มาบริจาคช่วยเหลือให้กับ ผู้ประสบเหตุไฟไหม้ ที่ศูนย์รับบริจาค วัดหมากก่าหัวคำ ท่าขี้เหล็กนั้น ได้แบ่งให้ชาวบ้าน ในแต่ละครัวเรือนแล้ว แต่ผู้บริจาคบางสวน ที่ไม่มาบริจาคที่วัด แต่ไปบริจาคให้ถึงมือชาวบ้านก็มี

ได้แบ่งเงินที่ผู้บริจาค มาบริจาคช่วยเหลือแล้ว แต่ที่ยังไม่ได้แบ่งให้กับชาวบ้าน มีรายการดังต่อไปนี้
เหล็กลูก เหล็กเส้น สังกะสี ปูน และอิฐ วัสดุก่อสร้างเหล่านี้ จะแบ่งให้กับชางบ้าน ในตอนที่ไกล้สร้างบ้านใหม่ต่อไป

เหตุการณ์ไฟไหม้นานกว่า(2)ชั่วโมง เมื่อเวลาประมาณ(19:00)น.วันที่(9.4.2016) ทำให้บ้านไม้ไผ่(9)หลัง บ้านไม้(15)หลัง และบ้านอิฐ(5)หลัง รวม(29)หลัง และผู้ประสบเหตุชาย(76)คน หญิง(89)คน รวมทั้งหมด(165)คน ที่ไม่มีบ้านเรือนอยู่อาศัย

#‎TachileikNewsAgency‬ www.tachieik.net ‪#‎TachileikNewsAgencyThai‬

ทราบจากคณะกรรมการบริหารจังหวัดท่าขี้เหล็กว่า ค่าใช้จ่าย สำหรับการสร้างบ้านหลังใหม่ ให้กับผู้ประสบเหตุไฟไหม้ บ้านหมากก่าหัวคำ (29)ครัวเรือน คาดหลังละ(60,000)กว่าบาท

ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก อูติ่นวินฉ่วย กล่าวว่า"ต้องการความช่วยเหลือจากผู้บริจาค อีกมาก เพื่อที่จะสร้างบ้านหลังใหม่ให้ชาวบ้าน สำหรับผู้บริจาค สามารถบริจาค วัสดุก่อสร้างและเงินได้ครับ"

ทางคณะกรรมการ เป็นตัวแทน ผู้ประสบเหตุไฟไหม้ ขอความช่วยเหลือมาว่า ผู้บริจาคสามารถ บริจาคเงินค่าสิ่งของ หรือบริจาคเงิน และยังสามารถ ร่วมกับครอบครัว เพื่อนๆ บริจาคค่าใช้จ่ายบ้านเป็นหลังกันได้

เหตุการณ์ไฟไหม้นานกว่า(2)ชั่วโมง เมื่อเวลาประมาณ(19:00)น.วันที่(9.4.2016) ทำให้บ้านไม้ไผ่(9)หลัง บ้านไม้(15)หลัง และบ้านอิฐ(5)หลัง รวม(29)หลัง และผู้ประสบเหตุชาย(76)คน หญิง(89)คน รวมทั้งหมด(165)คน ที่ไม่มีบ้านเรือนอยู่อาศัย

#‎TachileikNewsAgency‬ www.tachieik.net ‪#‎TachileikNewsAgencyThai‬

เกิดเหตุไฟไหม้ ในหมู่บ้านจะทีนา ต.ดอยต่อคำ จ.ท่าขี้เหล็ก วันนี้(11.4.2016) เวลาประมาณ(17:00)น. เบื้องต้นทราบว่า มีบ้านเรือนไหม้เสียหาย(13)หลังคาเรือน และโบสถ์อีก(1)โบสถ์ 

จากเหตุไฟไหม้ดังกล่าว ทราบว่า เกิดจากการเผาป่า  และลุกลามไหม้มาถึงบ้านเรือนชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ทหาร และกองทหารอาสาสมัคร ได้ร่วมมือกันช่วยดับไฟ จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้โบสถ์ศาสนาคริสต์ ไหม้เสียหาย(1)โบสถ์ และบ้านเรือนชาวบ้าน(13)หลังคาเรือน มีผู้ประสบเหตุจากไฟไหม้ ชาย(23)คน หญิง(17)คน รวมทั้งหมด(40)คน ไม่มีที่อยู่อาศัย

เบื้องต้นทราบว่า ได้เปิดศูนย์รับบริจาค ที่หมู่บ้านโจตะดา เพื่อช่วยเหลือ ชาวบ้านที่ประสบเหตุไฟไหม้ครั้งนี้

#‎TachileikNewsAgency‬ www.tachieik.net ‪#‎TachileikNewsAgencyThai‬

จากรายงานทราบว่า เหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อวันที่(9.4.2016) เหตุเกิดเนื่องจาก ขอแบ่งมรดกไม่สำเร็จ จึงใช้น้ำมันเบนซินเผาบ้าน ทำให้ไฟลุกลามไหม้ บ้านเรือนเสียหาย กว่า(29)หลังคาเรือน

จากการสืบสวนสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า นายอ่องตาน ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ได้ขอแบ่งมรดก ของภรรยาที่เสียชีวิต จากพี่สาวไม่สำเร็จ จึงก่อเหตุใช้น้ำมันเบนซินเผาบ้าน และทำให้ไฟลุกลามไหม้บ้านเรือนชาวบ้าน ในหมู่บ้านเสียหายไปด้วย

ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ Ko Myat Maung เล่าว่า "ไฟได้ลุกลามไหม้ บ้านทีละหลังอย่างรวดเร็ว รถดับเพลิงในท่าขี้เหล็ก ไม่เพียงพอที่จะควบคุมไฟได้ รถดับเพลิงจากอำเภอแม่สายต้องเข้ามาช่วยดับไฟด้วย"

จากเหตุไฟไหม้ ใช้รถดับเพลิง(19)คัน จึงควบคุมเพลิงได้สำเร็จ มีรถดับเพลิงในท่าขี้เหล็ก(10)คัน รถดับเพลิงจากฝั่งไทย(9)คัน มีเจ้าหน้าที่ทหาร และประชาชน ได้ช่วยกับดับไฟ สุดท้ายจึงสามารถ ควบคุมเพลิง ที่ลุกไหม้นาน(2)ชั่วโมงได้สำเร็จ

ทราบว่าไฟเริ่มไหม้จาก บ้านนางรัด ที่มุ้งหลังคาด้วยสังกะสี ผหนังไม้ไผ่ จากนั้นได้ลุกลามไหม้บ้านเรือน ในหมู่บ้านไทยใหญ่ บ้านไม้ไผ่(9)หลัง บ้านไม้(15)หลัง บ้านอิฐ(5)หลัง รวมทั้งหมด(29)หลังคาเรือน และมีผู้ประสบเหตุไฟไหม้ ชาย(76)คน หญิง(89)คน รวมทั้งหมด(169)คน

มีรถดับเพลิง จากสำนักงานดับเพลิงท่าขี้เหล็ก (6)คัน  รถดับเพลิงจาก ท่าเรือและเมืองพยาก(3)คัน รถดับเพลิงจากสำนักงาน เทศบาลตำบล(1)คัน รถดับเพลิงจากแม่สาย ฝั่งไทย(9)คัน เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่กู้ภัย และประชาชน ได้ช่วยกันดับไฟได้สำเร็จ

จากเหตุไฟไหม้ดังกล่าว ได้เปิดคดีตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อ ตำเนินคดีกับ ผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนีนายอ่องอ่องตาน(หรือ)นายอ่องตาน(หรือ)อ้ายตุน ที่ใช้น้ำมันเบนซินเผาบ้าน นางรัด ที่สถาณีตำรวจท่าขี้เหล็กแล้ว

ข่าว ; #KoZat

#‎TachileikNewsAgency‬ www.tachieik.net ‪#‎TachileikNewsAgencyThai‬

มีรายงานว่า เพราะปั๊มตราอนุญาต เข้า-ออก รถยนต์บนสะพานมิตรภาพเมียนมา-ไทย แห่งที่(1) ล่าช้า จึงทำให้รถติดตั้งแต่สะพาน ไปจนถึงถนนใหญ่ในเมือง ก่อให้เกิดการจราจรติดขัดบ่อยครั้ง

Ko Si Thu Maung จากสำนักงาน ปฏิบัติการ CNCMC กล่าวว่า "เส้นทางบนสะพานกับถนนใหญ่ในเมืองเป็นถนนเส้นเดียวกัน หากรถติดบนสะพาน บนถนนใหญ่ก็เกิดการจราจรติดขัดเช่นกัน และถ้าหากปั๊มตราอนุญาต เข้า-ออก รถยนต์ บนสะพานล่าช้า มันก็ต้องเกิดการจราจรติดขัด หากเป็นเช่นนี้ทำให้การเดินทางไปมาล่าช้าไปด้วย"

Ko Si Thu Maung ยังพูดอีกว่า เพราะการปั๊นตราอนุญาตเข้า-ออก เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยล่าช้า จึงทำให้เกิดรถจราจรติดขัด อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ออกมาแก้ปัญหาในเรื่องนี้ด้วยครับ

คนขับรถสามล้อ รับส่งผู้โดยสาร Ko Zaw Lin กล่าวว่า "ทุกครั้งรถจะติดเพราะมีงานบวช งานเสียศพ ต่างๆแต่ตอนนี้ บนสะพานมิตรภาพเมียนมา-ไทย เวลาเดินทางไปมาระหว่างสองประเทศ ทำให้รถจราจรติดขัดไปถึงถนนใหญ่ในเมือง "

เจ้าหน้าที่จราจรกล่าวว่า หากเกิดรถจราจรติดขัดเพราะเรื่องใดเรื่องหนึ่งบนถนนใหญ่ ในเมือง ทางเจ้าหน้าที่จราจร จะออกปฏิบัติงานเคลียร์ให้ประจำอยู่แล้ว

ยังทราบอีกว่า เมื่อก่อน ในเมืองท่าขี้เหล็ก ถนนแคบ ทำให้จำนวนรถยนต์กับความกว้างของถนน ไม่เสมอกัน ปัจจุบันทางสำนักงานเขตเทศบาล ท่าขี้เหล็ก ได้ทำการขยายถนน ให้กว้างขึ้นฝ่ายละ (6)ฟุต

ข่าว ; #ZaungNyi

#‎TachileikNewsAgency‬ www.tachieik.net ‪#‎TachileikNewsAgencyThai‬

ชาวไทยที่ใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว(BP) มาขายของในตลาดท่าล้อได้ พูดจาคุกคาม กับหญิงชาวเมียนมา ถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต จึงได้เข้าแจ้งความ ข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ที่สถาณีตำรวจท่าขี้เหล็ก กับชาวไทยคนดังกล่าวแล้ว

เมื่อวันที่(4.4.2016) หญิงชาวเมียนมา ถูกชาวไทยที่ขายของด้วยกันในตลาดท่าล้อคุกคาม จึงได้เข้าแจ้งความ ที่สถาณีตำรวจ และทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ได้แจ้งข้อหา ละเมิดกฎวีซ่า กับชาวไทยคนดังกล่าวแล้ว

รองหัวหน้าตำรวจ จ่อตาน กล่าวว่า"ชาวไทยที่ขายของด้วยกัน กับหญิงชาวไทยใหญ่ ในตลาดท่าล้อ ได้พูดจาขู่ว่า"หากไปแม่สาย จะให้เงินคนที่รู้จัก และจะให้ฆ่าทิ้ง" ผู้เสียหายจึงเข้ามาแจ้งความ ข้องหาหมิ่นประมาท และทำให้ผู้อื่นเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ได้ใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว(BP)เข้ามาขายของ ในตลาดท่าล้อ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จึงได้ตำเนินคดีตามกฎหมายต.มไว้แล้ว"

ทราบจาก ผู้เสียหาย นางฉ่วยโย่ง ว่า เมื่อเธอได้จัดวางขายของช่วงเช้า ในตลาดท่าล้อ ชาวไทยเจ้าของร้านกระเป๋าP Shop ที่อยู่ตรงข้ามร้านเธอ มีชื่อว่า นายปี(หรือ)Mr,Pradittham ได้พูดว่าไม่ให้มาย้ายโต๊ะวางของ และได้เดินชนเธอ ท่ามกลางผู้คนมากมาย และยังพูดกับแม่ค้าขายของในระแวกนั้นว่า "เพราะไม่กลัวผวกคุณไง ถึงได้มาขายของจากแม่สาย" "ถ้าไปแม่สายจะฆ่าผวกคุณทิ้ง คิดว่าผมเป็นตัวอะไร อยากไปแจ้งความที่ไหนไปแจ้งเลย" พูดคุกคามเช่นนี้แล้วยัง ถ่ายรูปคนที่ขายของระแวกนั้นไว้ และพูดว่า"จะให้คนที่รู้จักในแม่สายฆ่าทิ้ง"

พ่อค้าขายของในตลาดท่าล้อ ท่านหนึ่งกล่าวว่า "ชาวไทย ชาวจีน ที่มาขายของในตลาดท่าล้อ ใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราวทั้งนั้น แต่ถ้าชาวเมียนมาเราไปขายของ ในแม่สาย จะถูกจับกุมและ ไม่อนุญาตให้ขาย ตามกฎหมายของผวกเขา ไม่อนุญาตให้ใช้บัตรแรงงาน ขายของได้ หากเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจในแม่สาย ผวกผมต้องวิ่งหนีตลอดเลย ผู้ใหญ่ฝั่งเรา ทำความเข้าใจและไม่ทำอะไร แต่ผวกเขากลับดูถูกแบบนี้"

อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งข้อหา หมิ่นประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ถูกคุกคามอันตรายถึงแก่ชีวิต และข้อหาละเมิดกฎวีซ่า ตามกฎหมายต.ม ที่สถาณีตำรวจท่าขี้เหล็กเรียบร้อยแล้ว

ข่าว ; #KoZat

#‎TachileikNewsAgency‬ www.tachieik.net ‪#‎TachileikNewsAgencyThai‬

เมื่อวันที่(5.4.2016) เวลาประมาณ(10:0)น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมรถอีแต๋น(2)คัน บรรทุก ผงคาเฟอีน นำ้หนัก(4,400)ก.ก รวมมูลค่า (352)ล้านจ๊าด ที่ใช้เส้นทางอื่น เพื่อหลีกเลี่ยงด่านตรวจ สุดท้ายถูกจับกุมได้ที่บริเวณสี่แยก ไกล้บ้านห้วยดินดำ ต.เมืองพงศ์(ข) จ.ท่าขี้เหล็ก เบื้องต้นทราบว่า ได้ยึดของกลางและผู้ต้องหาเพื่อสอบสวนตำเนินคดีต่อไป

#TachileikNewsAgency #TachileikNewsAgencyThai www.tachileik.net